วันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ความหมายและคำอธิบาย GPRS 3G และ GPS


        GPRS ย่อมาจาก  General Packet Radio Service  ซึ่งจัดอยู่ในเจอร์เนเรชั่นที่ 2.5G สำหรับโทรศัพท์มือถือโดยมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้นนอกจากจะมีการเสียงแล้วยังมีการพัฒนาให้สามารถส่งข้อมูลผ่านโทรศัพท์มือถือ
          GPRS นั้นถือว่าเป็นบริการใหม่ที่ล้ำสมัยของโทรศัพท์มือถือที่ไม่จำกัดตัวเองอยู่แค่การใช้เสียงเท่านั้น โดยมันมีความสามารถในการส่งข้อมูลผ่านทางโทรศัพท์มือถือ ได้ด้วยความเร็วในระดับ 172Kbps(ขณะที่โทรศัพท์มือถือดิจิตอลธรรมดาส่งได้ด้วยความเร็ว 9.6 Kbps) ซึ่งความเร็วที่สูงระดับนี้สามารถรองรับกับ การใช้งานอินเตอร์เน็ตอย่างง่ายๆ ได้อย่างไม่มีปัญหา และอีกไม่
นานเราคงจะได้เห็นการใช้งานอินเตอร์เน็ต แบบย่อ ในมือคุณไม่ว่าจะเป็นการ Chat,Web,Browsing,FTPหรือ E-mail นอกจากนั้นมีการกำหนดการออกให้งานทั้วโลกอาจจะสรุปได้ว่า GPRS  คือ
  • เทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้การส่งข้อมูลเป็นไปอย่างรวดเร็วและสะดวกมาขึ้น
  • เทคโนโลยีที่สร้างขึ้นใช้ในระบบอินเทอร์เน็ตบนโทรศัพท์เพื่อความสะดวกในหลายๆด้าน
  • เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ทำให้การส่งข้อมูลมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
  • ทำให้มีการส่งข้อมูลแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็น เสียบ วิดีโอ ฯลฯ 
             นอกจากนั้นถ้าระบบมือถือของเรามีระบบ GPRS จะสามารถเชื่่อมเข้ากับ คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คและสามารถเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตได้อย่างง่ายดายขึ้นทำให้เราสามารถหาข้อมูลหรือหาข้อมูลข่าวสารได้ทุกที่ทุกเวลาทันต่อการเปลี่ยนแปลงในโลกปัจจุบัน


    


          เทคโนโลยี 3G คืออะไร      


         3G   คือ ระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ในยุคที่สาม (Third Generation of Mobile Telephone - 3G) ซึ่งมี สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ หรือ ITU (International Telecommunication Union)  ซึ่งเป็นองค์กรชำนาญพิเศษแห่งสหประชาชาติ ทำหน้าที่ในการให้คำแนะนำตลอดจน วางหลักเกณฑ์ในบริหาร และการกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคมให้กับประเทศต่างๆที่เป็นสมาชิกทั่วโลก โดยมีแนวทางในการวางหลักเกณฑ์ทางการบริหารทรัพยากรด้านโทรคมนาคมของแต่ละ ประเทศสมาชิก เพื่อให้เป็นไปแนวทางเดียวกัน  
           3G เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาต่อเนื่องมาจากจากยุคที่ 2 และ 2.5 ซึ่งเป็นยุคที่มีการให้บริการระบบเสียง และ การส่งข้อมูลในขั้นต้นซึ่งยังจำกัดเรื่องความเร็วและคุณภาพของข้องมูลแต่เมื่อมีการพัฒนาระบบ 3Gขึ้นมาทำให้เกิดการบริการแบบมัลติมีเดียและการส่งผ่านข้อมูลในระบบไร้สายด้วยอัตราความเร็วที่สูงขึ้น ทำให้ปรสิทธิภาพในการรับส่งข้อมูลตลอดจนแอพพลิเคชั่น ต่างๆดีขึ้น รวดเร็วมากขึ้น พร้อมทั้งสามารถใช้บริการมัลติมีเดียได้สมบูรณ์ แบบมากขึ้น โดยผ่านอุปกรณ์ที่ผสมผสาน การนำเสนอข้อมูล และเทคโนโลยีในปัจจุบันเข้าด้วยกัน เช่น PDA โทรศัพท์มือถือ และ อินเทอร์เน็ต เป็นต้น



               เราอาจจะสงสัยว่า ระบบ 1G 2G 3G คืออะไร
         ระบบ 3G คือ Gย่อมาจากGeneration
        -  1G-ระบบAnalog
        -  2G-ระบบDigital
        -  3G-ระบบWireless

           1G-ระบบAnalog     ซึ่งเป็นยุคที่ใช้ระบบ Analog คือใช้สัญญาณวิทยุในการส่งคลื่นเสียง โดยไม่รองรับการส่งผ่านข้อมูลใดๆทั้งสิ้นสามารถใช้งาน ทางด้าน Voice ได้อย่างเดียว คือ โทรออก-รับสาย 

           2G-ระบบDigital    ซึ่งเปลี่ยนจากการส่งคลื่นทางคลื่นวิทยุแบบ Analog มาเป็นการเข้ารหัส Digital ส่งทางคลื่น Microwave ซึ่งในยุคนี้เป็นยุคที่เริ่มทำให้เราเริ่มที่จะสามารถใช้งานทางด้าน Data ได้ นอกเหนือจากการใช้งานเสียงเพียงอย่างเดียว ในยุค 2G เราสามารถ รับ-ส่งข้อมูลต่างๆและติดต่อเชื่อมโยงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดการกำหนดเส้นทางการเชื่อมกับสถานีฐาน ก่อให้เกิดระบบ GSM (Global System for Mobilization) ซึ่งทำให้เราสามารถถือโทรศัพท์เครื่องเดียวไปใช้ได้เกือบทั่วโลก 
การส่งข้อมูลของยุค 2G นี้ เป็นยุคที่มีการเริ่มฮิต Download Ringtone , Wallpaper , Graphic ต่างๆ แต่ก็จะจำกัดอยู่ที่การ Downlaod Ringtone แบบ Monotone และ ภาพ Graphic ต่างๆก็เป็นเพียงแค่ภาพขาว-ดำที่มีความละเอียดต่ำเท่านั้น

            2.5G หลังจาก นั้น ก็เป็นยุคก้ำกึ่งระหว่าง 2G และ 3Gเป็นยุคที่กำเนิดเทคโนโลยี GPRS (General Packet Radio Service)  

             2.75G  ซึ่งเป็นช่วงที่เริ่มมีการใช้เทคโนโลยี EDGE (Enhanced Data rates for Global Evolution) EDGE นั้นถือเป็นเทคโนโลยีต่อยอดของ GPRS และถูกเรียกกันว่าเทคโนโลยียุค 2.75 G (อย่างไม่เป็นทางการ) ลักษณะการทำงานของ EDGE นั้นจะเป็นการพัฒนาปรับปรุงคุณภาพความเร็วจากพื้นฐานของ GPRS ให้มีความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลได้สูงขึ้น
**แต่ว่า ยุค 2.75G ของ EDGE นั้น ไม่ได้ถูกกำหนดขึ้นอย่างเป็นทางการ เพียงแค่ยกขึ้นมาเปรียบเทียบช่วงคาบเกี่ยวระหว่างยุค 2.5G และ 3G

       3G หรือ Third Generation ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการสื่อสารในยุคที่ 3 จุดเด่นที่สุดของ 3G คือมีความเร็วในการเชื่อมต่อและการรับ-ส่งข้อมูล โดยเน้นการเชื่อมต่อแบบไร้สายด้วยความเร็วสูง




                                   
             GPS  คือ ระบบกำหนดตำแหน่งบนพื้นโลกผ่านดาวเทียม (ย่อมาจาก Globle Positioning System) โดยพิกัดบนพื้นโลกที่ได้ จะมาจากการคำนวณสัญญาณนาฬิกาที่ส่งจากดาวเทียม มาที่เครื่องรับสัญญาณGPS ส่วนดาวเทียมGPSที่สามารถใช้ระบุตำแหน่งได้นั้น จะถูกออกแบบมาโดยเฉพาะให้โครจรอบโลก เพื่อส่งข้อมูลที่จะนำไปใช้คำนวณพิกัดออกมาตลอดเวลา    

       ระบบGPSจะทำงานได้นั้น ต้องประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลักๆคือ
             1. สถานีฐาน : มีหน้าที่ควบคุมการทำงาน รวมถึงวงโคจรของดาวเทียม และให้ค่าสัญญาณ นาฬิกาที่ถูกต้อง กับดาวเทียม GPS

             2. ดาวเทียม GPS : ส่วนของดาวเทียม GPS ในปัจจุบันนั้น(2552) จะมาจาก 3 ชาติหลักๆคือ
- NAVSTAR : จากของประเทศอเมริกา มีทั้งหมด 24 ดวง โครจรอบโลกที่ความเร็ว 12ชั่วโมงต่อ 1 รอบ
- Galileo : ถูกพัฒนาโดยสหภาพยุโรป ร่วมกับประเทศจีน อิสราเอล อินเดีย โมร็อกโก ซาอุดิอาระเบีย เกาหลีใต้ และยูเครน รวมจำนวน 27 ดวง มีกำหนดเปิดดำเนินการในปี 2553
- GLONASS : (GLObal NAvigation Satellite System) ที่พัฒนาโดยรัสเซีย 
- Beidou : เป็นดาวเทียม GPS ที่กำลังพัฒนาโดยประเทศจีน 

              3. เครื่องรับสัญญาณ GPS : ผู้ใช้งานสามารถรับสัญญาณ GPS ได้จากอุปกรณ์หลายๆอย่าง เช่น โทรศัพท์มือถือที่รับสัญญาณ GPS ได้, GPS Receiver (ต่อกับ computer, มือถือ) หรือ เครื่อง PNA (Personal Navigation Assistant) หรือเรียกง่ายๆว่า GPS Navigator, GPS ติดรถ หรือ Car GPS




แหล่งอ้างอิง





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น